กระทรวงพาณิชย์ขานรับนโยบายรัฐบาล กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค เดินหน้าจัดงาน Top Thai Brands งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ครั้งที่ 2 ภาคอีสาน เชื่อมั่นเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

          กระทรวงพาณิชย์ผนึกกรมหม่อนไหม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดอุดรธานี หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยและสมาคมเครื่องหนังไทย จัดงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศ Top Thai Brands หรืองานสุดยอดแบรนด์ไทย งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติขึ้นในภูมิภาคเป็นครั้งที่ 2 ระดมสินค้าแบรนด์ระดับคุณภาพส่งออก และแบรนด์ชั้นนำของประเทศกว่า 250 ราย เป็นครั้งแรกในภาคอีสาน เลือกปักธงอุดรธานี ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 4 ตุลาคม 2558 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี ตั้งเป้าผู้เข้าชมงาน 50,000 คน เงินสะพัด 100 ล้านบาท

 

          นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน Top Thai Brands ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติครั้งแรกในภาคอีสานที่จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 4 ตุลาคม 2558 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1-4 และอุดรธานีฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี จ.อุดรธานี โดยมีผู้ร่วมสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงสมาคมต่างๆ ได้แก่ กรมหม่อนไหม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดอุดรธานี หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย และสมาคมเครื่องหนังไทย

 

          การจัดงาน Top Thai Brands ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับ SME ไทยที่จะได้เดินทางไปร่วมแสดงสินค้าได้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ส่งออกรายใหญ่ที่มีประสบการณ์ ทำให้สามารถพัฒนาตนเองและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เพื่อสร้างพันธมิตรทางการค้าและจับคู่ธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทย และเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกและสร้างรายได้สู่ประเทศ 

 

          กิจกรรมภายในงานแบ่งออกเป็นโซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนผู้ประกอบการชั้นนำ แสดงและจำหน่ายสินค้าแบรนด์คุณภาพส่งออกของไทยจากผู้ประกอบการเอกชนรายใหญ่ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วจากกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญทั่วประเทศ ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มแฟชั่นไลฟ์สไตล์และเครื่องนุ่งห่ม กลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม กลุ่มหัตถกรรมร่วมสมัย กลุ่มเกษตรและเกษตรแปรรูป กลุ่มรถยนต์และเครื่องจักร กลุ่มธุรกิจบริการ เช่น เบทาโกร ซันสวีท เอสซีจี ไทยเบฟเวเรจ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มาลี มิตรผล ไทยรุ่ง แอลเอไบซีเคิล สหพัฒน์ เป็นต้น พาวิลเลียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พาวิลเลียนข้าวส่งออก พาวิลเลียนผ้าไหมของกรมหม่อนไหม โซน SME select และ Farm Outlet แสดงและจำหน่ายสินค้าของ SME และเกษตรกร ที่ได้รับการคัดสรรว่ามีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศกว่า 90 ราย สินค้า OTOP Top Brands สินค้าหัตถกรรม Craft Trend จากศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นต้น

 

          โซนกิจกรรมบนเวทีกลาง ประกอบด้วยการแสดงคอนเสิร์ต การสาธิตด้านอาหารไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรม DIY การชิงรางวัลประจำวัน นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาตลอดระยะเวลา 5 วัน เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการและผู้สนใจในหัวข้อต่าง ๆ เช่น เขตพัฒนาเศรษกิจพิเศษ / มาตรฐาน Thai GAP ช่วยยกระดับสหกรณ์และเกษตรกรได้อย่างไร / การเสวนาเปิดโลกแฟรนไชส์ไทยสู่ AEC / มุมมองเทรนด์การค้าโลก / การประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเข้าถึงแหล่งทุน และ การเลือกซื้อเครื่องประดับอย่างมั่นใจ เป็นต้น ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้มาเข้าเยี่ยมชมงาน ทั้งประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการทั้งใน และต่างประเทศ และผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ จีน ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา และเวียดนาม จำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน และคาดว่าเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท