การปราบปรามสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าที่ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่าจากประเด็น DSI ส่ง เจ้าหน้าที่ 50 นาย เข้าทำการตรวจค้นบริเวณตลาดโรงเกลือ พบของกลางเป็นน้ำหอมปลอมเครื่องหมายการค้ามากกว่า 20,000 ขวด ระหว่างนั้นมีมวลชนชาวกัมพูชาเข้าล้อมและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ รถยนต์ได้รับความเสียหายนั้น กรมฯ เห็นว่าเป็นการตรวจค้นครั้งใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนให้มีการดำเนินการเพื่อลดการละเมิดให้ได้ผลจริงจัง
สำหรับการดำเนินการของกรมฯ ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือที่ผ่านมา กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปอศ. และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์เข้าประสานงานกับตำรวจ สภ.คลองลึกทำการจับกุมและตรวจยึดสินค้าละเมิดในพื้นที่ตลาดโรงเกลือเป็นประจำทุกเดือน แต่ทำได้เพียงกรณีย่อยๆ โดยในปีพ.ศ.2558 ได้ทำการจับกุมและตรวจยึดรวม 194 คดี ของกลาง 27,870 ชิ้น และยังมีการดำเนินการต่อเนื่องในปี 2559 โดยในเดือนมกราคม มีการตรวจยึด รวม 21 คดี ของกลาง 1,101 ชิ้น สำหรับการปราบปรามในภาพรวมที่ตลาดโรงเกลือของตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมศุลกากร ในปีพ.ศ.2558 มีผลการจับกุมและตรวจยึดรวม 220 คดี ของกลาง 80,755 ชิ้น
ในปี 2558 กรมฯ ได้จัดทำใบปลิวรณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าเป็นภาษาไทยและภาษากัมพูชา โดยชี้แจงถึงความผิดและอัตราโทษแจกจ่ายให้กับผู้ค้าประมาณ 5,000 ใบ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ค้าว่า การขายสินค้า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม นาฬิกาปลอม เป็นความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้ามีโทษทั้งจำและปรับ ส่วนการขายสินค้าที่มีรูปการ์ตูนหรือแผ่นซีดีที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ เป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษทั้งจำและปรับเช่นเดียวกัน
สำหรับการดำเนินการต่อไป คือ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 จะมีการประชุมคณะทำงานประสานงานเพื่อบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดสระแก้ว “สระแก้วโมเดล” โดยมีรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นประธานคณะทำงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และมีคณะทำงาน เช่น ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ผู้แทนกรมศุลกากร ผู้แทนกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผู้แทนกรมสรรพสามิต เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีการหารือในเรื่องผลการดำเนินการที่ผ่านมา และการประสานงานในการป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ตลาดโรงเกลือต่อไป เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่และมีความละเอียดอ่อนเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสหภาพยุโรป และกัมพูชา หน่วยงานภาครัฐจึงมีการบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและสร้างความเป็นธรรมให้กับเจ้าของเครื่องหมายการค้า