กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ๓ รายการ พร้อมดันสินค้าท้องถิ่นไทยขึ้นทะเบียน 1 จังหวัด ๑ จีไอ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล

          นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญามีภารกิจในการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตในท้องถิ่นมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้าจีไอ (Geographical Indication: GI) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความเกี่ยวโยงลักษณะพิเศษของสินค้ากับธรรมชาติ ท้องที่ หรือพื้นที่และคนในชุมชนมีลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในท้องถิ่นโดยนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิต ผนวกกับทักษะความชำนาญและภูมิปัญญาของชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หรือแหล่งภูมิศาสตร์นั้น ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษของสินค้าขึ้นมา

          ซึ่งในช่วงครึ่งปีงบประมาณแรก ๒๕๕๘ (ตุลาคม ๒๕๕๗ - มีนาคม ๒๕๕๘) กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้าจีไอ (Geographical Indication: GI) ๓ รายการ คือ ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร หมากเม่าสกลนคร และน้ำหมากเม่าสกลนคร ทำให้ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แล้ว ๗๐ รายการ แบ่งกลุ่มได้เป็น ผัก/ผลไม้ ๒๔ รายการ อาหาร ๑๒ รายการ ข้าว ๙ รายการ หัตถกรรม/อุตสาหกรรม ๘ รายการ ผ้าไหม/ผ้าฝ้าย ๗ รายการ และไวน์/สุรา ๑๐ รายการ และมีผลิตภัณฑ์ไทยที่อยู่ในขั้นตอนการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จำนวน ๖ คำขอ ได้แก่ เงาะโรงเรียนนาสาร ส้มโอปูโกยะรัง ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน สังคโลกสุโขทัย ข้าวคำหอมแพร่ เครื่องเคลือบเวียงกาหลงเชียงราย ลิ้นจี่แม่ใจพะเยา และกาแฟเทพเสด็จเชียงใหม่

          โดยเป็นการยื่นคำขอจากจังหวัด เทศบาล และวิสาหกิจชุมชน เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญายังได้เล็งเห็นความสำคัญของการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จึงจัดให้มีโครงการส่งเสริมการขึ้นทะเบียน ๑ จังหวัด ๑ จีไอ เพื่อให้แต่ละจังหวัดมีการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไออย่างน้อย ๑ ผลิตภัณฑ์ เพื่อคุ้มครองชื่อสินค้าให้เป็นสิทธิเฉพาะของชุมชนที่ขึ้นทะเบียน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดีขึ้น และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่นอีกด้วย โดยปัจจุบันมี ๕๓ จังหวัด ที่มีการขึ้นทะเบียนและยื่นคำขอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอแล้ว ซึ่งยังเหลืออีก ๒๔ จังหวัด เช่น ตราด สุพรรณบุรี สตูล กระบี่ ระนอง กาญจนบุรี เป็นต้น ที่ยังไม่ได้มีการยื่นคำขอจดทะเบียนสินค้าจีไอ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเร่งดำเนินการให้ครบทุกจังหวัดภายในปี ๒๕๖๐