คำสั่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ข้อถือสิทธิคืออะไร

10252
28.07.59

ข้อถือสิทธิคืออะไร

ข้อถือสิทธิ  เป็นส่วนสำคัญของคำขอรับสิทธิบัตรที่ผู้ขอฯมีความจำเป็นจะต้องระบุถึงขอบเขตของสิทธิที่ประสงค์ที่จะขอรับความคุ้มครอง  ซึ่งแสดงสาระสำคัญของการประดิษฐ์และขอบเขตการสงวนสิทธิห้ามมิให้บุคคลอื่นแสวงหาประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือการละเมิดสิทธิบัตรของผู้ทรงสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร

ในการระบุข้อถือสิทธิโดยทั่วไป  ผู้ขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรไม่ควรจะระบุขอบเขตสาระสำคัญการประดิษฐ์กว้างจนเกินกว่าที่เปิดเผยไว้ในรายละเอียดการประดิษฐ์หรือสิ่งที่ทำการประดิษฐ์ขึ้น ดังนั้น หากผู้ขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรต้องการขอถือสิทธิในสาระสำคัญการประดิษฐ์ดังกล่าว จะต้องได้รับการเปิดเผยไว้ในรายละเอียดการประดิษฐ์ที่มีข้อความสมบูรณ์ รัดกุม และชัดแจ้ง 

ข้อถือสิทธิจะต้องมีการระบุข้อความไว้อย่าง ชัดแจ้งและรัดกุม  พอจะสรุปความหมายได้ว่า 

1. ลักษณะของถ้อยคำที่ใช้  

ห้ามใช้ถ้อยคำที่มีความหมาย คลุมเครือ หรือถ้อยคำที่เป็นทางเลือกแบบกว้าง  เช่น ระบุว่าส่วนประกอบส่วนหนึ่งของการประดิษฐ์ นั้น  ทำมาจากโลหะ หรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ย่อมแสดงความไม่ชัดเจน เพราะสิ่งที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับโลหะมีมากมาย ซึ่งก็อาจเป็นปัญหาในตีความถึงสิทธิที่จะเกิดขึ้นได้

2. ลักษณะการบรรยายหรืออธิบายสาระสำคัญการประดิษฐ์ลงในข้อถือสิทธิ  

จะต้องระบุสาระสำคัญที่ผู้ขอมีความประสงค์ที่จะขอรับความคุ้มครองโดยชัดแจ้ง รัดกุม และสอดคลองกับรายละเอียดการประดิษฐ์  หากสาระสำคัญการประดิษฐ์ในข้อถือสิทธิไม่สอดคล้องกันกับการเปิดเผยไว้ในรายละเอียดการประดิษฐ์  อาจเป็นเหตุทำให้ถูกปฏิสธการขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรได้

3. วิธีการของการแยกและจัดลำดับของข้อถือสิทธิ

ความชัดเจน และรัดกุมของข้อถือสิทธิ  อาจจะเกิดได้จากวิธีการแยกและการจัดลำดับข้อถือสิทธิ รวมทั้งการอ้างอิงข้อถือสิทธิอื่นๆ  สำหรับการพิจารณาแยกข้อถือสิทธิออกเป็นเป็นหลายข้อนั้น  ขึ้นอยู่กับลักษณะของการประดิษฐ์ว่ามีการประดิษฐ์นั้นมีลักษณะองค์ประกอบหรือโครงสร้างซับซ้อนหรือไม่เพียงใด  ถ้าเป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ซับซ้อนก็ไม่ควรแยกข้อถือสิทธิเป็นหลายข้อ  เพราะจะทำให้ขาดความชัดแจ้งและรัดกุม  ในทางกลับกันถ้าเป็นการประดิษฐ์ที่ซับซ้อนมากหากไม่แยกข้อถือสิทธิออกเป็นหลายข้อ ก็จะทำให้ขาดความชัดแจ้งและรัดกุมเช่นเดียวกัน

ข้อถือสิทธิที่ระบุถึงลักษณะทางเทคนิคอันเป็นสาระสำคัญของการประดิษฐ์ เรียกว่า  ข้อถือสิทธิหลัก  ส่วนข้อถือสิทธิที่อ้างถึงลักษณะทางเทคนิคอันเป็นลักษณะพิเศษหรือรายละเอียดปลีกย่อยอื่น เรียกว่า ข้อถือสิทธิรอง”  โดยทั่วไปการประดิษฐ์ที่มีลักษณะไม่ซับซ้อนจนเกินไป  มักจะมีข้อถือสิทธิหลักเพียงขอเดียวและอาจมีข้อถือสิทธิรองได้มากกว่าหนึ่งข้อ หากเป็นกรณีของคำขอรับอนุสิทธิบัตรจะต้องระบุข้อถือสิทธิรวมกันได้ไม่เกิน 10 ข้อ

กรณีที่ระบุข้อถือสิทธิหลักเพียงข้อเดียแล้วยังไม่ครอบคลุมถึงลักษณะทางเทคเนิคของการประดิษฐ์นั้นได้ทั้งหมด  ผู้ขอสามารถระบุข้อถือสิทธิหลักไว้ได้หลายข้อ  หากแต่การระบุข้อถือสิทธิหลักดังกล่าวจะต้องระบุอยู่ภายความคิดรวบยอดการประดิษฐ์เดียวกันที่ถูกเปิดเผยไว้ในรายละเอียดการประดิษฐ์ของคำขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรหนึ่งฉบับ  สำหรับการอ้างข้อถือสิทธิอาจระบุเป็นกลุ่มชุดข้อถือสิทธิ (Set Claims)ได้

ในการอ้างอิงข้อถือสิทธิรองจะต้องระบุอ้างอิงในลักษณะที่ความหมายเป็นทางเลือกเท่านั้น เช่น

  1. ระถางต้นไม้ ที่ซึ่งประกอบด้วย  ตัวกระถาง (1) ถูกติดตั้งอยู่บนฐานรอง (2)........ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือเครื่องเขย่า (3)......และท่อระบายน้ำออก(4) .......และส่วนเก็บน้ำ(5)......(บรรยายส่วนคิดค้นพัฒนาปรับปรุง/ที่ต้องการขอรับความคุ้มครอง)............     (เป็นข้อถือสิทธิหลัก) และมีข้อถือสิทธิรองคือ

  2. กระถางต้นไม้ ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ที่ซึ่งประกอบด้วยท่อระบายน้ำออก(4) ที่มีลักษณะพิเศษ..............  

  3. กระถางต้นไม้ ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 และ 2 ข้อใดข้อหนึ่ง  ที่ซึ่งประกอบด้วย ส่วนเก็บน้ำ(4) ที่มีลักษณะพิเศษ ....  การอ้างถึงข้อถือสิทธิรองในข้อถือสิทธิข้อที่ 3 ดังกล่าวข้างต้นถือว่ามีลักษณะเป็นทางเลือก 

แต่ถ้าระบุว่า

3.  กระถางต้นไม้ตามข้อถือสิทธิที่ 1 และ 2  ที่ซึ่งประกอบด้วยส่วนเก็บน้ำ (4) ที่มีลักษณะพิเศษ ..................     การอ้างถึงข้อถือสิทธิรองในข้อถือสิทธิข้อที่ 3 ดังกล่าวข้างต้นถือว่ามีลักษณะไม่เป็นทางเลือก   

 

DIP Logoกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี  ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 อีเมล์ : saraban@ipthailand.go.th สายด่วน 1368 

 facebook  instagram  youtube  twitter

สถิติผู้เข้าชมวันนี้ : 6867

สถิติผู้เข้าชมรวม : 10863686

ipv6 ready W3C WIA AAA WCAG20Html5 LogoAcheckerW3c Css
 
 
 
 

กรมทรัพย์สินทางปัญญา